จุดเด่น
- ชุดกิจกรรมที่บ้านรยาออกแบบมาสำหรับเด็กๆและครอบครัว ให้มีโอกาสได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ได้เสริมทักษะและประสบการณ์ ผ่านการลงมือทำจริงด้วยตัวเอง ฝึกการมีส่วนร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ ทำให้เด็กๆเกิดความภูมิใจในตนเอง ได้มีประสบการณ์ผ่านการสัมผัสที่แปลกใหม่ เริ่มตั้งแต่การผสมแป้ง นวดผสม จนได้แป้งโดสีขาวนุ่มนิ่ม และยังสามารถให้เด็กๆเรียนรู้เรื่องสีเพิ่มเติมได้ โดยผสมสีที่ตัวเองชอบ และปรับระดับความเข้มอ่อนได้ด้วยตัวเอง
- แป้งโดว์ที่ได้จะมีลักษณะผสมกันระหว่าง ดินเหนียวกับแป้งโดว์ธรรมชาติ (แป้งโดว์ทำขนมปัง) แป้งโดว์ของเราจะมีความนิ่ม นุ่ม ยืดหยุ่น ชุ่มชื่น รู้สึกดีเมื่อได้สัมผัส มีกลิ่นธรรมชาติของแป้งผสมกับกลิ่นของน้ำมันมะพร้าว
- ส่วนประกอบหลักคือ แป้งสาลี เกลือ และน้ำ โดยมีการเพิ่มน้ำมันมะพร้าวออแกนิค สกัดเย็น เพื่อให้แป้งโดว์มีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม ชุ่มชื่น อ่อนโยนต่อผิว ให้ความรู้สึกสบายมือเมื่อได้สัมผัส ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื่นขณะเล่น อีกทั้งยังให้กลิ่นหอมแบบธรรมชาติของน้ำมันมะพร้าว โดยไม่มีการเติมกลิ่นใดๆ สามารถปรับระดับความนุ่มได้ด้วยตัวเองตามชอบ โดยมีน้ำมันมะพร้าวออแกนิค สกัดเย็น สำหรับเติมให้ทุกกล่อง เพื่อใช้เติมลงในแป้งโดว์ เมื่อแป้งโดว์แห้ง หรือต้องการให้แป้งโดว์มีความนิ่มขึ้น
ใช้วัตถุดิบ food grade และใช้สีผสมอาหาร ปราศจากวัตถุกันเสีย และสารเคมี ไม่อันตรายต่อผิวหนังและกรณีเผลอสัมผัสที่ปาก
หลังจากเล่นแป้งโดว์เสร็จ ธรรมชาติของแป้งโดว์จะมีความแห้งลง เนื้อแป้งจะแข็งขึ้น เนื้องจากการระเหยของน้ำและปริมาณน้ำมันมะพร้าวที่ลดลง แนะนำให้เติมน้ำและ/หรือน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อย ปริมาณตามระดับความนุ่มที่ชอบนวดให้เข้ากัน (น้ำมันมะพร้าวจะช่วยให้แป้งโดว์นุ่ม ชุ่มชื้น อยู่ได้นานกว่าการเติมน้ำเพียงอย่างเดียว สามารถให้เด็กๆมีส่วนร่วมช่วยเติมช่วยนวดได้ ผึกให้การดูแลรักษาของ ให้เด็กๆมีความภูมิใจในตัวเอง) ใส่กล่องปิดให้สนิท กรณีเล่นต่อเนื่องทุกวันสามารถเก็บในอุณหภูมิปกติได้ แต่หากเล่นไม่ต่อเนื่องแนะนำเก็บไว้ในตู้เย็น จะช่วยยืดอายุของแป้งโดว์ได้ โดยก่อนเอามาเล่นให้นำออกมาตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิปกติสักครู่ให้หายเย็น ก็สามารถนำมาเล่นได้ทันที หรือนำออกมานวดเล็กน้อยก่อนเล่น - ขณะเล่น ผู้ปกครองควรสอนและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เด็กๆนำแป้วโดว์เข้าปาก (แป้งโดว์มีรสเค็มมาก) แป้งโดว์ที่ผ่านการเล่นแล้ว อาจมีมีเศษผงฝุ่น สิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคต่างๆมาปนเปื้อน แนะนำคุณพ่อคุณแม่คอยสังเกตุดู หากหมดสภาพหรือปนเปื้อนมากแนะนำเปลี่ยนแป้งโดว์ใหม่ เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่างๆได้
- สามารถเริ่มเล่นได้ตั้งแต่ 12m+ เพราะแป้งโดว์มีความนิ่มเป็นพิเศษ ทำให้เด็กเล็กที่กล้ามนื้อมัดเล็กยังไม่แข็งแรงสามารถฝึกหยิบจับ ขย่ำ กดได้ง่าย เด็กๆจะรู้สึกสนุก เพลิดเพลิน ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อได้อย่างดี การปั้นแป้งโดว์จะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อของเด็กให้แข็งแรงขึ้น เพื่อฝึกเป็นทักษะให้เด็กสามารถช่วยเหลือตัวเอง ใส่เสื้อผ้า ติดกระดุม ทานข้าว หยิบจับสิ่งของ ตลอดจนจับดินสอขีดเขียนได้อย่างมั่นคง เตรียมพร้อมสู่วัยอ่านเขียนเรียนหนังสือต่อไป
- พัฒนาการเด็กในการเล่นแป้งโดว์
- 1-2 ปี : หยิบ ขยำ กด ทุบแป้งโดว์ให้แผ่ออก มีลักษณะการใช้มือแบบกำทั้ง 5 นิ้ว
- 2-3 ปี : ดึงแป้งโดว์ออกจากกันเป็นก้อนๆ มีลักษณะการกำหรือใช้นิ้ว และตัดแป้งโดว์ด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ได้
- 3-4 ปี : ปั้นแป้งโดว์และคลึงเป็นเส้นยาว คลึงเป็นลูกบอล และกดเป็นแผ่นแบนกลมด้วยฝ่ามือ
- 4-5 ปี : ปั้นแป้งโดว์เป็นรูปร่าง ที่เด็กอาจจะเข้าใจความหมายได้คนเดียว
- 5 ปีขึ้นไป : ปั้นแป้งโดว์เป็นรูปร่างที่มีรายละเอียด ผู้อื่นเข้าใจความได้ มีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ช่วยในการปั้น
- ประโยชน์ของการเล่นแป้งโดว์
- การเล่นแป้งโดว์ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ในหลายๆด้าน
- พัฒนาการด้านร่างกาย
- “ศิลปะการปั้น” นอกจากความสนุกแล้ว ยังช่วยฝึกและเสริมพัฒนาการในด้าน กล้ามเนื้อมือให้กับเด็กเป็นอย่างดี เช่น มีการหยิบจับได้อย่างคล่อง เขียนหนังสือได้ดีขึ้น โดยเฉพาะความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมือนั้น มีความสำคัญกับเด็กมาก เห็นได้จากผลการศึกษาของ “เพียเจท์” นักจิตวิทยาชาวสวิสเซอร์แลนด์ เกี่ยวกับการพัฒนาการเด็ก พบว่า ความสามารถในการคิด และทักษะทางภาษาของเด็ก เกี่ยวโยงกับพื้นฐานและประสบการณ์ด้านกล้ามเนื้อ เด็กจะไม่สามารถพัฒนาทางภาษาได้ ถ้าปราศจากพื้นฐานที่มั่นคงทางด้านประสบการณ์ออกกำลังกาย และการหยิบจับสิ่งของรอบๆ ตัว เพราะเด็กปฐมวัยจะเรียนรู้จากการที่เด็กได้สัมผัสกับสื่อวัสดุต่างๆ ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้านั่นเอง
- การเล่นแป้งโดว์ ช่วยฝึกให้เด็กได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ ได้แก่ มือและนิ้วมือ นวด คลึง และปั้นแป้งโดว์เป็นรูปต่างๆ ตามความต้องการ เด็กยุคใหม่จะเริ่มมีปัญหาพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็กกันมาก เพราะเริ่มเล่นโทรศัพท์ แทบเลทต่างๆเร็ว ไม่ได้ฝึกพัฒนาจากกิจกรรมต่างๆมากนัก ทำให้กล้ามเนื้อมัดเล็กไม่แข็งแรง ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมือกล้ามเนื้อมัดใหญ่ โดยเฉพาะช่วงแขนขณะหยิบจับ ยกแป้งโดว์เล่น อีกทั้งยังช่วยพัฒนาประสาทสัมพันธ์ สอดคล้องระหว่างตากับมือ ระหว่างที่ปั้นแป้งโดว์
- พัฒนาการทางด้านอารมณ์และสังคม
- งานปั้นแป้งโดว์จะช่วยฝึกสมาธิ ทำให้เด็กซน สามารถนั่ง และจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำได้นานขึ้น เป็นกิจกรรมตัวช่วยที่ดีมากๆ ที่จะลดเวลาจากหน้าจอโทรศัพท์ต่างๆ จะช่วยให้เด็กๆเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน ตามเพศ อายุ และจินตนาการของเด็กๆ เช่นเด็กผู้ชาย อาจจะเล่นตักดินกับรถแม็คโคร เด็กผู้หญิง อาจจะเล่นกับตุ๊กตาและชุดเครื่องครัว เป็นต้น
- ประโยชน์ลับ ๆ ที่แทรกอยู่ในทุกขณะที่เด็กได้เล่นแป้งโดว์ก็คือการบำบัดทางอารมณ์โดยที่เค้าไม่รู้ตัว การเล่นแป้งโดว์สามารถลดความเครียดและความกระวนกระวายใจได้ โดยเฉพาะการฝึกเด็กที่อยู่ในวัยที่ไม่สามารถอยู่นิ่งได้เป็นเวลานาน ๆ ให้มีสมาธิและให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เด็กจะสามารถฝึกฝนทักษะทางศิลปะควบคู่ไปกับการเรียนรู้ที่จะเล่นโดยไม่ส่งเสียงดัง พร้อมกันนั้นก็ยังได้ฝึกสมาธิที่จะทำอะไรได้เป็นเวลานานอีกด้วย
- ช่วยในเรื่องของมิติสัมพันธ์ ทำให้เด็ก สามารถมองภาพที่เป็น 3 มิติ ได้ดีขึ้น พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ และได้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน
- พัฒนาการทางด้านสังคม โดยเด็กสามารถเล่นแป้งโดว์ร่วมกับเพื่อน พี่น้อง คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่สามารถทำกิจกรรมเล่นร่วมกับลูกๆได้ สอดแทรกบทเรียนหรือกิจกรรมต่าง ๆ ให่กับลูก ใช้เป็นสื่อการสอน ระหว่างที่เด็กเล่นแป้งโดว์ เด็กจะได้ฝึกทักษะการฟังและการพูดผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว อย่างพี่น้อง เพื่อน หรือแม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่เองอยู่แล้ว สำหรับเด็กวัยที่กำลังหัดพูดหรือวัยที่กำลังเรียนรู้คำศัพท์ แป้งโดว์คืออุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น คุณแม่อาจลองถามคำถามเพื่อให้เค้าได้ฝึกใช้ภาษาในการหาคำอธิบายถึงสิ่งประดิษฐ์จากแป้งโดว์ของเค้า โดยปกติเด็กจะปั้นแป้งโดว์หรือทำชิ้นงานศิลปะจากสิ่งที่เค้าเคยเห็นหรือเคยสัมผัสในชีวิตประจำวัน อย่างอาหารที่ได้กินเมื่อเช้า รองเท้าคู่โปรดที่คุณแม่ซื้อให้ หรือคุณแม่อาจจะลองช่วยลูกในการพัฒนาทักษะด้านภาษา อย่างการชวนลูกโรลแป้งโดว์เป็นเส้น ๆ และนำมาสร้างเป็นตัวอักษร แล้วค่อยชวนเค้ามาประกอบเป็นคำศัพท์ง่าย ๆ ที่เค้าสามารถพบเจอได้ในทุกวัน
- พัฒนาทักษะทางด้านภาษาในการอธิบายผลงานของตนเอง เสริมสร้างความภูมิใจในตัวเอง พึงพอใจในผลงานของตน
- ฝึกนิสัยการเก็บของเล่นให้เป็นที่ การรักษาของ เพราะหลังจากเล่นเสร็จแล้วต้องเก็บแป้งโดว์ให้มิดชิด และดูแลแป้งโดว์ให้มีอายุนานขึ้นเพื่อที่จะนำมาเล่นได้อีกในครั้งต่อไป
ที่มา : www.พัฒนาการเด็ก.com, www.cottonbaby.com
วิธีการผสม
- ผสมส่วนแป้งและส่วนน้ำนวดให้เข้ากัน จะได้แป้งโดว์สีขาว หากต้องการเติมสี สามารถแบ่งแป้งหยดสีตามชอบและนวดให้เข้ากัน ถ้าต้องการทำแป้งโดว์ให้นุ่มขึ้นสามารถเติมน้ำเพิ่มเล็กน้อย (น้ำมันมะพร้าวซองเล็ก ใช้สำหรับการดูแลรักษาแป้งโดว์หลังเล่น)
วิธีดูแลและการเก็บรักษา
- หลังเล่นเสร็จให้เติมน้ำและ/หรือน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อย ปริมาณตามระดับความนุ่มที่ชอบ นวดให้เข้ากัน ใส่กล่องปิดให้สนิท แนะนำเก็บในตู้เย็นจะช่วยยืดอายุการใช้งาน
อายุการใช้งาน
- เก็บในอุณหภูมิปกติ ประมาณ 1 เดือน เก็บในตู้เย็น 1-6 เดือน ขึ้นกับการดูแลรักษาและการใช้งาน
น้ำหนักสุทธิ
- 500 กรัม
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้
- มีแป้งสาลี
แนะนำ
- 12m+
ดูรายการสินค้าในหมวดเดียวกันเพิ่มเติม
- คลิกไปดูรายการสินค้าในหมวด ชุดกิจกรรม